อีเมล์ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
ปรับขนาดตัวอักษร
ภาษา
TH
โหมดการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ
ประวัติความเป็นมา
          ในอดีต เมื่อปี พ.ศ. 2311 ตำบลพญาขันเคยเป็นที่ตั้งเมืองพัทลุง โดยพระปลัด (หนู) เจ้าผู้รักษาราชการเมืองนครศรีธรรมราช ที่ได้รวบรวมหัวเมืองทางใต้ไว้รวมถึงเมืองพัทลุงด้วยนั้น ได้แต่งตั้งให้ พระยาพิมลขันธ์ สามีของท้าวเทพกษัตรีย์เมืองถลาง มาเป็นเจ้าเมืองพัทลุง โดยตั้งเมืองที่บ้านควนมะพร้าว ปัจจุบัน คือ บ้านพญาขัน หมู่ที่ 2 ตำบลพญาขัน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

          ต่อมา ในปี พ.ศ. 2312 เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จมาตีเมืองนครศรีธรรมราชได้ พระปลัด (หนู) เจ้าผู้รักษาราชการเมืองนครศรีธรรมราชก็ได้หนีไปกับพระยาพิมลขันธ์ และหลังจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ปราบปราม รวบรวมหัวเมืองต่าง ๆ ให้เป็นปึกแผ่นแล้ว ก็ได้แต่งตั้ง นายจันทร์ ผู้เป็นมหาดเล็ก มาเป็น เจ้าเมืองพัทลุง โดยตั้งเมืองที่บ้านม่วง ปัจจุบัน คือ หมู่ที่ 6 ตำบลพญาขัน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ซึ่งนายจันทร์ ได้เป็นเจ้าเมืองพัทลุงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2312 – 2315 รวมเป็นระยะเวลา 3 ปี

          หลักฐานที่ได้ค้นพบว่า บ้านควนมะพร้าว ซึ่งปัจจุบัน คือ บ้านพญาขัน หมู่ที่ 2 ตำบลพญาขัน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เคยเป็นสถานที่ตั้งของเมืองพัทลุง คือ มีร่องรอยที่ตั้งจวนเจ้าเมือง พบเศษเครื่องถ้วยชามบนเนินทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวัดควนมะพร้าว สันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งเมืองพัทลุง และจากหลักฐานที่ได้ค้นพบที่บ้านม่วง ปัจจุบัน คือ บ้านม่วง หมู่ที่ 6 ตำบลพญาขัน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง คือ มีร่องรอยบ่อน้ำและเคยพบโซ่ตรวนสำหรับล่ามช้าง

          ในส่วนของความเป็นมาของชื่อ "ตำบลพญาขัน" คือ เมื่อครั้งก่อนตั้งตำบล ได้ใช้ชื่อ "ตำบลพระยาขันธ์" ซึ่งเป็นชื่อของพระยาพิมลขันธ์ เจ้าเมืองพัทลุง ในสมัยที่เมืองพัทลุงตั้งอยู่ที่บ้านควนมะพร้าว ปัจจุบัน คือ บ้านพญาขัน หมู่ที่ 2 ตำบลพญาขัน ต่อมาได้เปลี่ยนจากพระยาขันธ์ เป็น พญาขัน

ตำนานพญาขัน
          ตำบลพญาขัน ได้มีเรื่องเล่าที่เป็นตำนาน เกี่ยวกับทวดขันหรือทวดพญาขัน ที่ได้เล่าสืบต่อๆ กันมา ว่า "ทวดขันหรือทวดพญาขัน เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของชุมชนบ้านพญาขัน อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง โดยเชื่อว่า ทวดขันเป็นงูบองหลา (งูจงอาง) เป็นพญางูใหญ่ ที่เฝ้าทรัพย์สมบัติในสระน้ำกลางเมืองพัทลุง (เก่า) ในสมัยกรุงธนบุรี อาศัยอยู่ที่ศาลาทางทิศตะวันตกของสระน้ำ เฝ้าทรัพย์สมบัติล้ำค่า เช่น ถ้วยชามโบราณ แก้วแหวนเงินทอง

          ของเหล่านี้เล่าว่าชาวบ้านสามารถยืมไปใช้ได้ แต่ต้องนำกลับไปเก็บไว้ที่เดิม ต่อมาได้มีพวกพาลคิดโกงสมบัติของทวดขัน โดยทำทีเป็นเล่นการพนันชนิดหนึ่ง เรียกว่า "เล่นดวด" วิธีเล่นก็ผลัดกันทอดลูกเบี้ย พวกคิดโกงได้ทอดเบี้ยเอาเอง 1 ครั้ง ทอดให้ทวด 1 ครั้ง ทอดจนชนะทวด พวกพาลก็นำสมบัติไปหมด ต่อมาทวดขันได้ไปเข้าฝันชาวบ้านว่า จะไม่อยู่ที่สระพญาขันแล้ว เพราะแพ้การพนันจนหมดตัว ไม่รู้จะอยู่เฝ้าสมบัติอะไร จากนั้นทวดขันก็หนีไปอยู่เมืองแขก ตั้งแต่นั้นมาจึงไม่มีใครพบทวดขันอีกเลย

เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องทวดขันนี้ เนื้อเรื่องพ้องกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในสมัยธนบุรี กล่าวคือ สมัยเมื่อพระปลัด (หนู) เจ้าผู้รักษาราชการเมืองนครศรีธรรมราช ได้ตั้งตัวเป็นใหญ่ในภาคใต้ ได้ส่งพระยาพิมลขันธ์มาเป็นเจ้าเมืองพัทลุง พ.ศ. 2311 ได้ตั้งเมืองที่ควนมะพร้าว ต่อมาเมื่อพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงยกทัพมาปราบ พระปลัด (หนู) เจ้าผู้รักษาราชการเมืองนครศรีธรรมราชได้ ในปี พ.ศ. 2312 พระปลัด (หนู) และพระยาพิมลขันธ์ ได้หนีไปเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับที่ทวดขันหนีไปเมืองแขก แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อหรือนิทานในพื้นบ้านบางเรื่อง อาจมีบ่อเกิดมาจากประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นนั้น ๆ จึงแฝงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ไว้ในรูปของนิทาน"